ด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโร หรือ 77 ล้านปอนด์ ที่ทำให้กองหลังชาวโครแอต เกือบได้ทำลายสถิติโลกแซง แฮรี่ แมคไกวร์ ของ แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้วแต่ต้องขอชมบอร์ดบริหารของเราที่สามารถเจรจาต่อรองจาก 100 ล้านยูโร ลงมาในราคาที่เหมาะสมได้สำเร็จ เพราะไม่เช่นนั้นการที่เด็กหนุ่มวัย 21 ปี ต้องมาแบกรับความกดดันของตำแหน่งกองหลังที่แพงที่สุดในโลกก็คงจะไม่ดีมากนักต่อเจ้าตัว

กวาร์ดิโอล เริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 7 ขวบ เมื่อพ่อของเขาเป็นนักเตะระดับสมัครเล่นให้กับทีมในท้องถิ่นของเมืองนอวิกราด ยอสโก้ อยู่กับทีมเยาวชนของสโมสร เตรสเนฟก้า ได้เพียงแค่ระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่เขาได้รับความสนใจจากสโมสรในเมืองคือ โลโคโมทีฟ และ ซาเกร็บ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกรับข้อเสนอจาก ดินาโม ซาเกร็บ ตามที่ครอบครัวต้องการ

ในชุดเยาวชนเขาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายและกองกลางตัวรับ ก่อนที่โค้ชชุดเยาวชนอย่าง ดาลิบอร์ โปลดรูกัช จะเปลี่ยนให้เขาขยับมาเล่นเป็นกองหลังตัวกลางเหมือนปัจจุบัน กวาร์ดิโอล อยู่กับชุดเยาวชนของ ดินาโม ซาเกร็บ ถึง 9 ปี ก่อนที่จะขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในปี 2019 และเพียงปีเดียวที่เขาลงเล่น แอร์เบ ไลป์ซิก สโมสรจากบุนเดสลีกาก็มาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2020 จนถึงปัจจุบัน

แต่หลายคนอาจลืมไปว่า เรามีผู้นำแนวรับที่เป็นเสมือนรุ่นพี่คือ รูเบน ดิอาส ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลกของซีซั่นที่ผ่านมาและ จอห์น สโตนส์ กับบทบาทใหม่แบบไฮบริด หลังก็ได้กลางก็เก่ง ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ว่าแนวรับของทีมจะแข็งแกร่งมากขนาดไหนถ้าเจ้าตัวสามารถปรับตัวกับทีมได้คำว่า “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ก็คงไม่เกินจริง

ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่า เราสามารถไว้ใจกับแนวรับได้อย่างแน่นอนถ้าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บยาวๆ แต่สิ่งที่ยังคงกังวลคือแนวรุก ก็หวังแต่เพียงว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถหาผู้เล่นมาเสริมได้ทันก่อนตลาดปิด เพราะเราคงไม่อยากฝากความหวังไว้ที่ผู้เล่นดาวรุ่งมากเกินไป…